คำจำกัดความ
 
SKU ร้านค้า หมายถึง SKU หรือ รหัสสินค้า ที่กรอกไว้เมื่อคุณเพิ่มสินค้าในร้านค้าออนไลน์ หากสินค้าหนึ่งรายการมีตัวเลือกที่ต่างกัน SKU ร้านค้าก็จะมีหลายตัวตามจำนวนตัวเลือก เช่น เสื้อยืดมี 3 สี คือสีดำ สีขาว และสีเทา แต่ละสีมีไซต์ M และ L ฉะนั้นเสื้อยืดรายการนี้จะมี 6 SKU (หมายเหตุ สินค้าเดียวกันอาจมี SKU ที่อยู่ในแต่ละร้านค้าต่างกัน)

SKU Merchant หมายถึง SKU ที่สร้างขึ้นในโมดูล สินค้าคงคลัง ของ BigSeller เพื่อจัดการสินค้าคงคลัง และเป็นส่วนหนึ่งในการจับคู่ระหว่างระบบ BigSeller และ Platform เพื่อทำการตัดสต็อกได้อย่างถูกต้อง หากสินค้าหนึ่งรายการมีหลายตัวเลือกจะต้องสร้าง SKU Merchant ขึ้นมาทุกตัวเลือก จากนั้นทำการจับคู่กับ SKU ร้านค้า เมื่อมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามา ระบบ BigSeller จะตัดสต็อกสินค้าได้ถูกตัว


        SKU เดียว หมายถึง SKU Merchant ตัวเดียว

        Bundle SKU หมายถึง SKU เดียวหลายตัวผูกรวมกันเพื่อขายสินค้าเป็นเซ็ต

        เช่น เสื้อ มี SKU เดียว คือ A001 และกางเกง มี SKU เดียว คือ A002

        เมื่อสินค้า 2 รายการนี้ขายเป็นเซ็ต (เสื้อ+กางเกง) Bundle SKU จะถูกผูกด้วย 2 SKU เดียว คือ A001+ A002

       
        SPU SPU ย่อมาจาก Standard Product Unit หมายถึง ข้อมูลพื้นฐานของสินค้า หรือเข้าใจได้ว่าเป็น กลุ่มสินค้า คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

ความสัมพันธ์การจับคู่  หมายถึง ความสัมพันธ์การจับคู่ระหว่าง SKU Merchant และ SKU ร้านค้า หลังจากที่คุณสร้างความสัมพันธ์การจับคู่และซิงค์คำสั่งซื้อเข้า BigSeller ระบบจะระบุโดยอัตโนมัติว่า SKU ร้านค้าได้จับคู่กับ SKU Merchant ตัวไหน และควรตัดสต็อก SKU Merchant ตัวไหน

หมายเหตุ:

หลังจากสร้าง SPU เรียบร้อย คุณสามารถจับคู่ SKU ร้านค้าให้กับ SKU Merchant แต่ละรายการของ SPU นี้ได้ เพื่อตัดสต็อกและลิ้งสต็อก

สำหรับ SKU Merchant ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ คุณสามารถเชื่อมต่อ SPU ที่ต้องการได้ เพื่อการจัดการและการค้นหาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

ความสัมพันธ์ระหว่างสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อ

1. ในการใช้ฟีเจอร์สินค้าคงคลัง คุณต้องสร้าง SKU Merchant ที่สอดคล้องกันกับ SKU ร้านค้าและทำการจับคู่กับ SKU ร้านค้า ทุกตัวตามจำนวนของตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการ
 
2. หลังจากซิงค์คำสั่งซื้อเข้า BigSeller ระบบจะทำการตรวจสอบว่าสต็อกของ SKU Merchant มีจำนวนที่เพียงพอสำหรับคำสั่งซื้อหรือไม่ หากเพียงพอ คำสั่งซื้อจะถูกย้ายไปที่ "รอยืนยัน" ของรายการ คำสั่งซื้อใหม่ และคุณสามารถคลิกยืนยันคำสั่งซื้อได้ตามปกติ

3. หากสต็อกไม่เพียงพอ คำสั่งซื้อจะถูกย้ายไปที่ ของขาด ของรายการ คำสั่งซื้อใหม่ และคุณต้องสร้างรายการ Stock-In /นับสต้อก/แก้ไขจำนวนสต็อกพร้อมขายเพื่อเพิ่มสต็อก หลังจากนั้นจึงจะเริ่มจัดการคำสั่งซื้ออีกครั้ง คลิกที่นี่ เพื่อดูขั้นตอนการดำเนินการ


แนะนำสถานะสต็อก


 

สต็อกที่มีอยู่ หมายถึง จำนวนสต็อกทั้งหมด โดยปกติจะใช้เพื่อบันทึกจำนวนสต็อกที่แท้จริงของสินค้าในคลังของคุณ (สต็อกที่มีอยู่ = ล็อคแล้ว +สต็อกพร้อมขาย + โปรโมชันที่จองไว้)

ล็อคแล้ว หมายถึง จำนวนสต็อกที่จัดสรรให้กับคำสั่งซื้อ หลังจากระบบซิงค์คำสั่งซื้อเข้า BigSeller ระบบจะล็อคสต็อกสำหรับคำสั่งซื้อนี้ไว้ และสต็อกที่ล็อคไว้จะไม่สามารถจัดสรรให้กับคำสั่งซื้ออื่นได้อีก

สต็อกพร้อมขาย หมายถึง สต็อกที่สามารถจัดสรรได้ เมื่อคุณคลิก ยืนยัน ที่รายการ คำสั่งซื้อใหม่ ระบบจะตรวจสอบว่ามีสต็อกที่เพียงพอสามารถจัดสรรให้คำสั่งซื้อนี้หรือไม่ตามสต็อกพร้อมขาย

ระหว่างทาง หมายถึง จำนวนสต็อกที่อยู่ในระหว่างการโอนสต็อกและการสั่งซื้อสินค้า ระหว่างทาง = ระหว่างทางการโอน + ระหว่างทางการสั่งซื้อ